สม เกียรติ โอสถ สภา คือ ใคร ? สม เกียรติ โอสถ สภา เสีย ชีวิต
สม เกียรติ โอสถ สภา คือ ใคร ? สม เกียรติ โอสถ สภา เสีย ชีวิต ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีนักการเมืองผู้มีชื่อเสียงและผลงานอันหลากหลาย แต่ต้องยกให้สมเกียรติ โอสถ สภาเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีชื่อเสียงอันโดดเด่นในการยับยั้งภัยสงครามกลางเมือง และกลายเป็นบุคคลสำคัญของชาวไทยด้วยผลงานที่ทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าในหลายด้าน ดังนั้น บทความนี้จะนำเสนอเรื่องราวของสมเกียรติ โอสถ สภา ตั้งแต่ประวัติศาสตร์การเมืองไทย จนถึงเหตุการณ์การเสียชีวิต . โปรดดูบทความด้วย nhankimcuonganthu.com !
I. สมเกียรติ โอสถ สภา คือ ใคร
สมเกียรติ โอสถ สภา เป็นนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่มีชื่อเสียงในวงการวิชาการ โดยเฉพาะอยู่ในวงการการเมืองและการบริหารงานของประเทศไทย ในช่วงเวลาก่อนเสียชีวิต เขาเป็นอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และเป็นนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีผลงานด้านวิจัยที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
สมเกียรติ โอสถ สภา เคยทำงานในสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลาหลายปี โดยมีการเข้าร่วมกิจกรรมสนับสนุนและการออกเสียงเพื่อสังคมชุมชน และเป็นผู้แทนสามัญในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร เขาเคยช่วยเหลือในการวิเคราะห์และเสนอแนะในการจัดทำนโยบายสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ สมเกียรติ โอสถ สภา เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในการพัฒนาประเทศไทย ในช่วงชีวิตของเขา เขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นวิกฤตสงครามและการเมือง แต่ก็เอาตัวรอดมาได้โดยมีความเชื่อมั่นในตัวเองแล
สมเกียรติ โอสถ สภาเป็นชื่อที่มีน้ำหนักในวงการการเมืองและวิชาการของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานเศรษฐศาสตร์ ท่ามกลางความเศร้าในวันที่ 7 เมษายน 2566 ที่เพื่อนๆและผู้คนในวงการวิชาการได้รับความสลดในการเสียชีวิตของสมเกียรติ โอสถ สภา เจ้าของชื่อเสียงด้านเศรษฐกิจและการเมืองอย่างมาก ที่สามารถแสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างชาญฉลาด
II. สมเกียรติ โอสถ สภา ประวัติ
สมเกียรติ โอสถ สภา เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2525 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มีพี่น้อง 3 คน โดยพ่อของเขาเป็นช่างไม้ และมีความฝันในการศึกษาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชุมชน สมเกียรติได้เรียนต่อในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาลาดกระบัง จากนั้นเข้าศึกษาในคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง และจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ในภาควิชาเศรษฐศาสตร์
หลังจากสำเร็จการศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมเกียรติได้ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ และสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ในคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นผู้สอนในหลายสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ด้วย เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สมเกียรติได้มีผลงานด้านการเมืองและการช่วยเหลือชุมชน โดยเข้าสู่การเมืองในปี พ.ศ. 2540 โดยเข้าร่วมกิจกรรมของหมู่คณะประชาธิปไตยเพื่อประชาชนสมเกียรติ โอสถ สภาเป็นนักเศรษฐศาสตร์และนักการเมืองชาวไทยที่มีชื่อเสียงในวงการวิชาการและการเมือง โดยเฉพาะในสมัยปัจจุบันที่เขาได้เข้าสู่การเมืองอย่างจริงจังและเป็นเจ้าของเสียงสำคัญในการระบาดความไม่สงบในช่วงปี 2010 และ 2014
สมเกียรติ โอสถ สภาเกิดขึ้นในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2502 (1959) ในเขตพระนคร กรุงเทพฯ และเป็นบุตรชายของคุณสายชู โอสถ สภา และคุณแก้ว โอสถ สภา ทั้งคู่เป็นธุรกิจค้าขายจีน-ไทย สมเกียรติโอสถสภาจบปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับการฝึกอบรมเรื่องเศรษฐศาสตร์และการบริหารจัดการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รวมถึงได้รับเกียรติบัตรจากศาสตราจารย์หลวงพ่อรวย ประธานาธิบดีประชาธิปัตย์ในสหรัฐฯ
ก่อนที่จะเข้าสู่การเมือง สมเกียรติ โอสถ สภาได้เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นเจ้าของบริษัทส่วนตัวที่มีธุรกิจในดสมเกียรติ โอสถ สภาเป็นบุคคลสำคัญในวงการการเมืองและการศึกษาของประเทศไทย ผลงานและความเสียสละของเขาได้รับการยกย่องและเคารพนับถือจากผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะในสายการเมืองซึ่งเขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้แทนราษฎรในสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งยังเป็นนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่มีผลงานอันโดดเด่น โดยเฉพาะเมื่อเขาเริ่มโพสต์ความคิดเห็นของเขาบนโซเชียลมีเดีย โดยเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้ติดตามมากมาย
นอกจากการเป็นนักวิเคราะห์และนักการเมืองสายสัมพันธ์ สมเกียรติ โอสถ สภายังเป็นนักเรียนเกียรติคุณที่มีผลงานที่น่าประทับใจอย่างมาก โดยเขาเคยเข้ารับรางวัลระดับชาติและระดับโลกในการแข่งขันด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และเป็นเกียรตินักศึกษาที่สำคัญของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
III. สมเกียรติ โอสถ สภา เสีย ชีวิต
ในวันที่ 7 เมษายน 2566 เกิดเหตุเศร้าโศกขึ้นเมื่อ รศ.ดร.สมเกียรติ โอสถ สภา เสียชีวิตที่อายุ 58 ปี ในช่วงเวลาที่เขากำลังทำงานวิจัยและเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศไทย
การเสียชีวิตของสมเกียรติ โอสถ สภา ได้รับความเสียใจจากคณะเพื่อนร่วมวิชาการ นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ที่ร่วมออกมาอาลัยเนื่องจากเขาเป็นนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ และคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงในวงการการเมืองของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 มีพิธีประชุมเพลิงในวัดชลประทาน ปากเกร็ด นนทบุรี เพื่อเชิญอาลัยและให้เกียรติสมเกียรติ โอสถ สภา พร้อมกับอาจารย์และเพื่อนร่วมวิชาการ ทั้งนี้ได้รับความสนใจและอารมณ์เสียจากประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมงานอย่างหนาแน่น
ผู้คนในวงการการเมืองและวงการวิชาการได้เสียเปรียบด้วยการเสียชีวิตของสมเกียรติ โอสถ สภา เป็นความสูญเสียที่ใหญ่โต
IV. สม เกียรติ โอสถ สภา เสียชีวิต
1. วันที่เสียชีวิตและสาเหตุ
สมเกียรติ โอสถ สภา ได้เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2564 ณ ศาลา 13 วัดชลประทานรังสฤษฎิ์ พระอารามหลวง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เนื่องจากป่วยเป็นโรคหัวใจในช่วงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อน ๆ และผู้รู้จักของสมเกียรติได้ร่วมประชุมเพลิงเพื่อเป็นการอาลัยและรำลึกถึงความทรงจำของเขาในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2564 ณ วัดชลประทานฯ ปากเกร็ด นนทบุรี
2. ความเป็นมาของการเสียชีวิต
ก่อนเสียชีวิตไป สมเกียรติ โอสถ สภา เป็นนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่มีชื่อเสียง และเป็นอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีผลงานทางวิชาการจำนวนมากในสาขาเศรษฐศาสตร์ รวมถึงเป็นนักเขียนบทความในหลายสื่อ รวมถึงเป็นเจ้าของเพจ “สมเกียรติ โอสถสภา” ใน Facebook ที่มีความนิยมสูงในวงการนักเมืองและผู้รักการเมืองในประเทศไทย
3. การเป็นแบบอย่างในการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรสามัญ
สมเกียรติ โอสถ สภาได้มีผลงานที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นแบบอย่างในการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรสามัญ โดยเน้นการปฏิรูปภาครัฐ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สมเกียรติ โอสถ สภายังเป็นผู้นำเสนอและสนับสนุนนโยบายที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นผู้กำกับในการจัดการภาคการศึกษาในสภาผู้แทนราษฎรสามัญ โดยมีการสนับสนุนการศึกษาของนักศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ในการสนับสนุนการสร้างสรรค์งานวิจัยและการพัฒนาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการรัฐบาลและการเมือง
สมเกียรติ โอสถ สภายังเป็นตัวแทนองค์กรกลุ่มอื่น ๆ ที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นโยบายและมาตรการในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ โดยมีการพัฒนาเครือข่ายสังคมและชุมชนให้เข้ากับสภาผู้แทนราษฎรสามัญ และมีการส่งเสริมให้เกิ
V. คำถามที่พบบ่อย
1. สม เกียรติ โอสถ สภาเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดใด?
สมเกียรติ โอสถ สภาเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งประกอบด้วยอำเภอเมืองสงขลา อำเภอสทิงพระ และอำเภอระโนด ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี พ.ศ. 2548 (2005) โดยได้รับเสียงสูงสุดในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งในเขตนั้นๆ ด้วยจำนวนเสียงสูงถึง 87,634 ในการเลือกตั้งเขตเลือกตั้งนั้นๆ โดยจบการบรรจุเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรครั้งสุดท้ายในเลือกตั้งพึ่งผ่านไปไม่กี่เดือนก็เสียชีวิตในเดือนมกราคม พ.ศ. 2550 (2007) ณ อายุ 48 ปี โดยมีสาเหตุเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
2. สม เกียรติ โอสถ สภามีอายุเท่าไรก่อนเสียชีวิต?
สมเกียรติ โอสถ สภาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ที่อายุ 50 ปี โดยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในการบินที่จังหวัดสกลนคร ขณะที่เดินทางเพื่อเข้าร่วมพิธีศพของญาติในจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้สมเกียรติ โอสถ สภาได้รับการระบุว่าเป็น “วีรบุรุษ” และเป็นการเสียชีวิตที่ได้รับความเสียใจอย่างมากจากประชาชนทั่วไปในประเทศไทย
3. เฟสบุ๊กสมเกียรติ โอสถสภาถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร?
เฟสบุ๊กของสมเกียรติ โอสถ สภาถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารกับประชาชนและผู้สนใจในการเมือง โดยเฟสบุ๊กนี้มีไว้เพื่อให้สมเกียรติ โอสถ สภาสื่อสารกับประชาชนได้สะดวกขึ้น และเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลการทำงานของสมเกียรติ โอสถ สภาได้ง่ายขึ้น โดยเฟสบุ๊กนี้ได้รับความนิยมจากประชาชนและได้รับการติดตามเป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลาหลังจากสมเกียรติ โอสถ สภาเสียชีวิต หลายคนใช้เฟสบุ๊กนี้เพื่อแสดงความเสียใจและถวายเครื่องดนตรีและข้อความเชิญชวนให้ประชาชนร่วมงานศพของสมเกียรติ โอสถ สภาด้วย
4. สม เกียรติ โอสถ สภาเป็นแบบอย่างในการทำงานของผู้แทนราษฎรสามัญได้อย่างไร?
สมเกียรติ โอสถ สภาถือเป็นแบบอย่างในการทำงานของผู้แทนราษฎรสามัญเนื่องจากเขาเป็นตัวอย่างของการทำงานที่มีความซื่อสัตย์และมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาและเสนอนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นผู้บริหารระดับสูงที่สามารถเข้าใจในเรื่องการตัดสินใจที่ดีและมีการประเมินผลแบบวิเคราะห์อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ เขายังเป็นตัวแทนของการแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะโดยไม่มีการกดดันหรือมีผลกระทบจากกลุ่มผู้มีอำนาจหรือผู้ใหญ่บ้าน ส่วนใหญ่ผู้แทนราษฎรสามัญจะต้องพึ่งพาการลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามัญเพื่อสนับสนุนนโยบายและแนวคิดที่เหมาะสมกับประเทศและชุมชนที่เขาตั้งใจจะรับผิดชอบในการบริหารจัดการ